ความลึกในแต่ละคนไม่เท่ากัน เราต้องคุยให้เข้าใจว่าลูกค้าต้องการสักสไตล์ไหนจริงๆ
สำหรับคนที่หลงใหลในรอยสักเราเชื่อว่า The Master คราวนี้ต้องถูกใจทุกคนอย่างแน่นอนกำลังอยู่ที่ สตูดิโอ 'ไกลจักรวาล'เพื่อพูดคุยกับ เอก-วันประชา ธิติไพศาล เจ้าของสตูดิโอไกลจักรวาลที่ควบบทบาทดีไซเนอร์อีกหนึ่งตำแหน่ง เขาคือหนึ่งในผู้ก่อตั้ง B.O.R.E.D เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า Us and Them และอยู่เบื้องผลงานภาพประกอบเจ๋งๆ อีกเพียบ อะไรที่ทำให้ร้านสักชื่อเท่ของเขายืนหยัดด้วยความมั่นคงมาตลอด 6 ปีและทำไมลูกค้าถึงติดใจมาใช้บริการแบบล้นหลามจนต้องจองคิวล่วงหน้าเป็นเดือน คำตอบอยู่ด้านล่างนี้หมดแล้ว
ความหมายของสตูดิโอไกลจักรวาล?
สตูดิโอไกลจักรวาลเริ่มมาจากช่วงว่างของชีวิตผมก็เลยมีเวลาอ่านหนังสือมากขึ้นเลยทำให้เรารู้สึกว่าทำไมอะไรๆ เราก็ไม่รู้ไปหมดทำไมเราถึงโง่ขนาดนี้ ภายในโลกนี้เรายังไม่รู้อีกหลายอย่างนับประสาอะไรกับจักรวาลจึงเป็นที่มาของชื่อสตูดิโอไกลจักรวาลครับ
จุดเด่นของที่นี่?
อาจจะอยู่ที่สไตล์งานไม่เหมือนใคร บรรยากาศสบายๆ ทุกคนมาจะบอกว่าต้นไม้เยอะดี (ยิ้ม) ช่างของเราถูกเทรนมาทำงานในสไตล์ที่เฉพาะเจาะจงในสไตล์ของตัวเอง ผมจะเป็นคนดูว่าใครเหมาะสมกับงานสไตล์ไหน
เทรนด์การสักเกิดขึ้นมาจากอะไร?
เทรนด์มันเกิดจากความเข้าใจในสิ่งเหล่านั้นเช่นมีช่วงหนึ่งที่แนว Geometric มาแรงคนก็จะเข้ามาสักเยอะแต่จะเป็นลายในสไตล์ของเราเอง เรื่องของกระแสมีส่วนค่อนข้างเยอะส่วนลายสักสไตล์ประจำของที่ร้านก็มีคนมาสักเยอะเหมือนกัน
งานสไตล์มินิมอลดูผ่านๆ เหมือนจะง่าย?
งานมินิมอลไม่ง่ายนะ พลาดปื้ดเดียวก็เห็นเลยเพราะเส้นมันน้อยแต่มันก็อยู่ที่ประเภทของงานด้วยว่ามินิมอลแบบไหนเพราะคำว่ามินิมอลมันค่อนข้างกว้างพอสมควร
กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ?
ส่วนใหญ่เป็นคนทำงานครีเอทีฟ สาวๆ ก็มีมาเยอะมาก ต่างชาติที่เข้ามาสักส่วนมากเป็นคอลเลคเตอร์
ขั้นตอนคร่าวๆ ก่อนรับการสัก?
ขั้นตอนแรกคือการบรีฟงานกันก่อน คุยกันเรื่องแบบให้เรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปคือจองวัน มัดจำ แล้วทางเราจะส่งแบบไปก่อนจะถึงวันสักแล้วเข้ามาสักกันเป็นขั้นตอนที่เรียบง่ายมาก(หัวเราะ)
ถ้าต้องสักแล้วต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง?
เตรียมใจ เตรียมความคิดตัวเองว่าการที่ต้องโดนสักมันต้องเป็นยังไง ความรู้สึกแบบนี้รับได้มั้ยเราจะใช้เวลาอยู่กับรอยสักนานขนาดไหน เราชอบมันจริงๆ หรือเปล่า เรื่องเหล่านี้มันจะทำให้รู้ว่าจะบรีฟงานได้ขนาดไหน
งานแบบที่ไหนที่เรียกว่าท้าทาย?
งานที่ท้าทายคือพยามยามทำในสิ่งที่ทำไม่ได้ให้ทำได้ มันจะเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ทำให้สไตล์งานที่ร้านดูหลากหลาย
งานแก้ถือว่าท้าทายมั้ย?
มันคือการแก้ปัญหามากกว่า เราจะแก้ปัญหาให้ลูกค้ายังไงให้ออกมาดูดีที่สุดในสไตล์เรา งานแก้ของเราไม่ได้สักทับเป็นงานญี่ปุ่นหรือลายถมดำบางทีเรามองภาพอีกแบบนึงโดยที่เขายังสามารถมีลายมีสีมีสไตล์อย่างที่เราเป็นอยู่ เป็นสิ่งที่ท้าทายดีแต่เป็นไปได้อยากสักที่เป็นงานใหม่มากกว่า เพราะการแก้ปัญหาเป็นเรื่องยากเสมอบางทีต้องคิดและทำการบ้านเยอะมาก
แรงบันดาลใจหาได้จากที่ไหนบ้าง?
ทั่วไปครับ รอบตัว ลูกค้า ทีวี หนังสือเหตุการณ์บ้านเมือง ผมเป็นคนชอบดูสารคดี ดูซี่รี่ย์ มันก็รวมๆ ผสมกันมา บางทีเราอ่านหนังสือก็หยิบตรงนั้นตรงนี้มาใช้ ผมมองว่าเราห้ามหยุดเรียนรู้ ต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ หยิบสิ่งนั้นสิ่งนี้มาประยุกต์เป็นของเราให้ได้
คุณเป็นเพอร์เฟ็คชั่นนิสต์หรือเปล่า?
ผมเคยเป็นแบบนั้นมาก่อนแล้วมันตึงเครียดมาก หลังๆ ผมพยายามปล่อยให้ช่างทำงานในสิ่งที่ต้องทำไปแล้วผมจะเข้ามาดูว่าส่วนไหนที่ต้องปรับอีกทีเป็นการมองภาพระหว่างคนออกแบบกับช่างสัก
เคสแบบไหนที่ไม่รับสักบ้างครับ?
แบบที่ไม่ใช่สไตล์ร้านเราเลย อีกกรณีเป็นงานแก้ที่ไม่สามารถแก้ได้จริงๆ แต่ส่วนใหญ่เราพยายามจะไม่ปฏิเสธลูกค้าเราจะดูจนกว่าจะรู้ว่าทำได้หรือไม่ได้ ถ้ามั่นใจว่าไม่ได้จริงๆ ต้องปฏิเสธไปตั้งแต่ตอนแรก
ความฟินคือการที่ลูกค้ากลับมาสักกับเราหรือเปล่า?
เปล่าเลย ความฟินของผมคือ เมื่อสักออกไปแล้วสวยงาม ลูกค้าชอบ ความฟินของผมมีอยู่แค่นั้นจะกลับมาสักรอบ 2 รอบ 3 อีกหรือเปล่าอันนี้ผมไม่รู้
Facebook: Klai Jakkawan (สตูดิโอ ไกลจักรวาล)
Pinterest: Klai Jakkawan Tattoo Studio
ภาพ/เรื่อง : Nuthakorn Chienprapa
อัพเดทความเคลื่อนไหวของ A'Lure Magazine ได้ที่
Facebook : facebook.com/Alure.Fanclub
Instagram : instagram.com/aluremagazine
VDO : seeme.me/ch/themaster